การลงทุนในกองทุนรวมทองคำทำให้เราได้เห็นภาพที่เปลี่ยนแปลงไปว่า การซื้อขายทองคำมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกับในอดีต ที่นิยมซื้อทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณมาเก็บรักษาไว้ แล้วนำไปขายเมื่อต้องการ แต่สำหรับการลงทุนในปัจจุบัน ทั้งการลงทุนผ่านกองทุน ผ่านหุ้น หรือผ่านรูปแบบการซื้อขายอื่น ๆ สามารถกระทำได้ด้วยระบบออนไลน์ โดยเปิดคำสั่งซื้อหรือขายผ่านแอปพลิเคชัน โดยราคาซื้อขายก็ใช้เป็นราคาเดียวกันกับตลาดโลก จึงถึงเวลาที่จะทำการเจาะลึกเรื่องทองคำกันสักครั้ง เพื่อให้นักลงทุนได้นำไปตัดสินใจก่อนการลงทุน

เลือกในแบบของตัวเองเพราะหุ้นทองคำ กับกองทุนรวมทองคำไม่เหมือนกัน 

ทุกคนทราบดีว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย และการลงทุนในกองทุนรวมทองคำ เป็นการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินทุนเริ่มต้นน้อย และผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร แต่หลายคนไม่ทราบว่า กองทุนทองคำ กับหุ้นทองคำไม่เหมือนกัน ทำให้เมื่อถึงเวลาที่ต้องการลงทุนหลายคนเกิดความสับสน นักลงทุนจึงควรแยกให้ออกระหว่างการลงทุนทั้ง 2 ประเภท เพื่อเลือกรูปแบบที่ตรงใจคุณ

หุ้นทองคำ เหมือนกับการซื้อหุ้นทั่วไป โดยนักลงทุนจะได้เข้าไปเป็นเจ้าของธุรกิจทองคำนั้น ๆ ด้วยการซื้อหุ้นของธุรกิจในราคาขายปัจจุบัน โดยคุณจะมีส่วนร่วมในกิจการมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสัดส่วนในการเข้าซื้อหุ้น และในตลาดหุ้นมีหุ้นทองคำให้เลือกตามความต้องการ เช่น หุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจซื้อขายทองคำโดยเฉพาะ หุ้นธุรกิจที่มุ่งเน้นด้านการผลิต อย่างเหมืองทอง และหุ้นร้านทอง เป็นต้น ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาหุ้นมีความเคลื่อนไหวไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาทองคำเท่านั้น แต่มีปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง ทั้งภาพรวมของตลาดหุ้น สภาพเศรษฐกิจ และผลประกอบการของธุรกิจที่คุณถือครอง ดังนั้นการเทรดหุ้นต้องอาศัยการติดตามข่าวสาร ความรู้รอบตัว และเทคนิคในการเทรด

ส่วนกองทุนรวมทองคำ เปรียบเสมือนการลงทุนทางอ้อม โดยนักลงทุนจะลงทุนผ่านกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทองคำโดยเฉพาะ และจะมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารจัดการการลงทุนให้ โดยการลงทุนประเภทนี้ ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะอิงตามราคาของตลาดทองคำโลก ไม่อิงกับราคาทองคำในประเทศ และปัจจัยที่ทำให้ราคาทองเกิดความผันผวนนอกจากจะเกิดจากราคาในตลาดโลกแล้ว ยังมีเรื่องของค่าเงิน และอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

กองทุนรวมทองคำ

สังเกตให้ดีก่อนลงทุนกองทุนรวมทองคำ ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำมีอะไรบ้าง

การลงทุนกับทองคำไม่ว่าจะเป็นหุ้นทองคำ หรือกองทุนรวมทองคำ นักลงทุนต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับทองคำ แม้แต่ผู้ที่ลงทุนในกองทุนทองคำที่มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล ก็ควรจะมีความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทอง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง การที่นักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจร่วมด้วย จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้ 

สิ่งที่นักลงทุนควรสังเกตเกี่ยวกับทองคำ คือ ความผันผวนของทองคำมักจะมีปัจจัยที่สวนทางกับเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อม เพราะคนจะเริ่มซื้อทองคำเมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ปลอดภัย นั่นจึงหมายความว่า เมื่อเศรษฐกิจเริ่มซบเซา หรือมีแนวโน้มที่จะถดถอย คนจะเริ่มซื้อทองคำมากขึ้น และเมื่อมีความต้องการซื้อสูงขึ้น ราคาทองคำก็จะดีดตัวสูงขึ้นไปด้วย แต่ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจดี นักลงทุนมีความเชื่อมั่น ความต้องการซื้อทองคำจะลดลง ส่งผลให้ราคาทองลดลงตามไปด้วย เช่นในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้น

ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นในยุคปัจจุบัน

  • ผลกระทบที่เกิดเป็นความตึงเครียด ระหว่างประเทศจีนกับประเทศไต้หวัน
  • ความยืดเยื้อของสงคราม ระหว่างประเทศรัสเซียกับประเทศยูเครน
  • ภาวะเงินเฟ้อ ที่ถึงแม้ปัจจุบันจะสามารถควบคุมให้ลดลงมาได้ แต่ก็ยังสูงกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น
  • ปัญหาเรื่องเพดานหนี้ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ 
  • เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจในยุโรปเริ่มเข้าสู่ภาวะซบเซา
  • การเมืองในประเทศไทยที่ทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุน
  • การอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

​ จากตัวอย่างสถานการณ์ดังที่กล่าวมา นักลงทุนควรจับตาแนวโน้มในอนาคตให้ดี เพราะเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หรือส่งสัญญาณในเชิงบวก ราคาทองคำจะเริ่มลดลง

การเลือกลงทุนในกองทุนรวมทองคำมีความเหมาะสมกับนักลงทุนทุกกลุ่ม และการลงทุนกับทองคำไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยาก หากนักลงทุนเข้าใจหลักการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ด้วยทองคำเป็นโลหะที่มีมูลค่าสูง มีมูลค่าในตัวเอง การเคลื่อนไหวจึงมักจะสวนทางกับเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่นักลงทุนจะเพิ่มทองคำลงไปในพอร์ต เพื่อเป็นการลดและช่วยกระจายความเสี่ยง แต่จะเลือกหุ้นทองคำหรือกองทุนรวม ขึ้นอยู่กับความต้องการของนักลงทุนเองว่า แบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด เพื่อการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า